Post Views:
5,403
“10 ดอกไม้ สมุนไพรกินได้ และ รักษาโรค”
กระเจี๊ยบแดง แทรกกลีบดอกอยู่ตามกิ่งยาว ใช้ประดับแจกันก็ได้ ขณะเดียวกันก็นำกลีบเลี้ยงมาเชื่อม ทำแยม หรือตากแห้งใช้ต้มเป็นน้ำกระเจี๊ยบ
สรรพคุณ ดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ บรรเทาอาการท้องเสีย และช่วยป้องกันการจับตัวของไขมันในเส้นเลือด กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
กระดังงาไทย ดอกสีเหลืองมีกลิ่นหอมสุขุม ใช้กลีบลนไฟอ่อนๆ ลอยน้ำเชื่อม ปรุงขนมหวานต่างๆ ให้กลิ่นหอม
สรรพคุณ ใช้เข้ายาลม บำรุงโลหิต บำรุงธาตุ และบำรุงหัวใจ
ดอกกล้วย หรือที่เรียกว่าหัวปลี ใช้ส่วนที่ยังอ่อนสีขาวนวล กินเป็นผักเคียงกับก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ใช้ยำ ใส่แกงเลียง ชุบแป้งทอด หรือต้มจิ้มน้ำพริก โดยเฉพาะปลีกล้วยตานีจะมีเส้นใยที่อ่อนนุ่มกว่าปลีกล้วยชนิดอื่นๆ
สรรพคุณ ช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่คนใหม่ และช่วยลดน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน
กุหลาบมอญ กลีบดอกสีชมพูมีกลิ่นหอมเย็น แช่น้ำลอยดอกไม้ ปรุงเป็นขนม เพื่อให้ความหอม ใส่ในยำร่วมกับดอกไม้อื่นๆ ดอกแห้งใช้ชงเป็นชา
สรรพคุณ บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย ช่วยระบาย
ดอกขจร ดอกรูปถ้วยสีเหลืองอ่อน ใช้ทั้งดอกตูมและดอกบานทำอาหารได้หลายชนิด เช่นแกงส้ม แกงจืด ไข่ตุ๋น ยำดอกขจร และชุบแป้งทอดกินกับขนมจีนน้ำพริก
สรรพคุณ ให้พลังงานต่อร่างกายมาก เพราะมีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน สูงกว่าผักชนิดอื่น มีวิตามินเอและซีค่อนข้างสูง บำรุงตับ ปอด บำรุงเลือด และแก้เสมหะ
คาเลนดูล่า (ดาวเรืองหม้อ หรือดาวกระจาย) กลีบดอกใส่ในสลัด น้ำซุป อบกับขนมปัง เพื่อให้กลิ่นหอม
สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
ชบา ใช้แต่งสลัดผัก ใส่แกงเลียง หรือใช้เป็นสีผสมอาหารจะให้สีแดงม่วง เติมน้ำมะนาวลงไปจะให้สีแดงสด
สรรพคุณ บำรุงน้ำนมในสตรีหลังคลอดบุตร ดื่มเป็นยาชงช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้ไข้ ฟอกโลหิต และช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
ดาวเรือง ดอกตูมลวกจิ้มน้ำพริก กินแกล้มลาบ กะปิคั่ว ช่อดอกรสขม ฉุนเล็กน้อย
สรรพคุณ ขับร้อนใน ขับลม ละลายเสมหะ แก้วิงเวียนศรีษะ
ดาหลา ดอกตูมและหน่ออ่อนจิ้มน้ำพริก แกงเผ็ด หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมในข้าวยำ
สรรพคุณ รสเผ็ดร้อน ช่วยขับลม แก้ลมพิษ แก้โรคผิวหนัง
ดอกอโศกน้ำ ดอกเป็นพวงสีเหลืองส้มมีกลิ่นหอม รสเปรี้ยว นิยมทำแกงส้ม พล่า ยำ หรือดอกสดจิ้มกับน้ำพริกได้
สรรพคุณ แก้ไอ ขับเสมหะ บำรุงธาตุ
ที่มา : ชีวจิต
“10 ดอกไม้ สมุนไพรกินได้ และ รักษาโรค”
กระเจี๊ยบแดง แทรกกลีบดอกอยู่ตามกิ่งยาว ใช้ประดับแจกันก็ได้ ขณะเดียวกันก็นำกลีบเลี้ยงมาเชื่อม ทำแยม หรือตากแห้งใช้ต้มเป็นน้ำกระเจี๊ยบ
สรรพคุณ ดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ บรรเทาอาการท้องเสีย และช่วยป้องกันการจับตัวของไขมันในเส้นเลือด กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
กระดังงาไทย ดอกสีเหลืองมีกลิ่นหอมสุขุม ใช้กลีบลนไฟอ่อนๆ ลอยน้ำเชื่อม ปรุงขนมหวานต่างๆ ให้กลิ่นหอม
สรรพคุณ ใช้เข้ายาลม บำรุงโลหิต บำรุงธาตุ และบำรุงหัวใจ
ดอกกล้วย หรือที่เรียกว่าหัวปลี ใช้ส่วนที่ยังอ่อนสีขาวนวล กินเป็นผักเคียงกับก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ใช้ยำ ใส่แกงเลียง ชุบแป้งทอด หรือต้มจิ้มน้ำพริก โดยเฉพาะปลีกล้วยตานีจะมีเส้นใยที่อ่อนนุ่มกว่าปลีกล้วยชนิดอื่นๆ
สรรพคุณ ช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่คนใหม่ และช่วยลดน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน
กุหลาบมอญ กลีบดอกสีชมพูมีกลิ่นหอมเย็น แช่น้ำลอยดอกไม้ ปรุงเป็นขนม เพื่อให้ความหอม ใส่ในยำร่วมกับดอกไม้อื่นๆ ดอกแห้งใช้ชงเป็นชา
สรรพคุณ บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย ช่วยระบาย
ดอกขจร ดอกรูปถ้วยสีเหลืองอ่อน ใช้ทั้งดอกตูมและดอกบานทำอาหารได้หลายชนิด เช่นแกงส้ม แกงจืด ไข่ตุ๋น ยำดอกขจร และชุบแป้งทอดกินกับขนมจีนน้ำพริก
สรรพคุณ ให้พลังงานต่อร่างกายมาก เพราะมีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน สูงกว่าผักชนิดอื่น มีวิตามินเอและซีค่อนข้างสูง บำรุงตับ ปอด บำรุงเลือด และแก้เสมหะ
คาเลนดูล่า (ดาวเรืองหม้อ หรือดาวกระจาย) กลีบดอกใส่ในสลัด น้ำซุป อบกับขนมปัง เพื่อให้กลิ่นหอม
สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
ชบา ใช้แต่งสลัดผัก ใส่แกงเลียง หรือใช้เป็นสีผสมอาหารจะให้สีแดงม่วง เติมน้ำมะนาวลงไปจะให้สีแดงสด
สรรพคุณ บำรุงน้ำนมในสตรีหลังคลอดบุตร ดื่มเป็นยาชงช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้ไข้ ฟอกโลหิต และช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
ดาวเรือง ดอกตูมลวกจิ้มน้ำพริก กินแกล้มลาบ กะปิคั่ว ช่อดอกรสขม ฉุนเล็กน้อย
สรรพคุณ ขับร้อนใน ขับลม ละลายเสมหะ แก้วิงเวียนศรีษะ
ดาหลา ดอกตูมและหน่ออ่อนจิ้มน้ำพริก แกงเผ็ด หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมในข้าวยำ
สรรพคุณ รสเผ็ดร้อน ช่วยขับลม แก้ลมพิษ แก้โรคผิวหนัง
ดอกอโศกน้ำ ดอกเป็นพวงสีเหลืองส้มมีกลิ่นหอม รสเปรี้ยว นิยมทำแกงส้ม พล่า ยำ หรือดอกสดจิ้มกับน้ำพริกได้
สรรพคุณ แก้ไอ ขับเสมหะ บำรุงธาตุ
ที่มา : ชีวจิต
PAVINEE NA THLANEG
More Posts
PAVINEE NA THLANEG