เคยสงสัยกับการค้นหาสิ่งต่างๆ บน Google ไหม ? ว่าทำไม เวลาเราค้นหา คำเดียวกัน กับเพื่อน แต่เครื่องเรา กับเครื่องเพื่อน ถึงมีผลลัพธ์ในการค้นหาไม่เหมือนกันล่ะ ? เวลาค้นหาเรื่องเดียวกันในห้องเรียน แต่ บางทีเราอาจจะเจอเรื่องที่แตกต่างกันก็ได้ มันก็มีข้อดีและข้อเสียในส่วนนี้อยู่เหมือนกันนะ สำหรับบางคนก็อาจจะเป็นข้อเสียนิดหน่อย แต่ข้อดีของส่วนนี้มันมีอยู่มากเลยล่ะ งั้นเรามาดูกัน ว่ามันเกิดจากอะไร
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ถ้าเราค้นหาผ่าน Search Engine Result Page (SERP) ช่องค้นหาของ Google และกลับมาดูผลลัพธ์ในการค้นหาบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา และเครื่องเพื่อน คำตอบหรือการค้นหาที่ได้ ก็อาจจะเหมือนๆ กัน แต่ในตอนนี้ การค้นหาทั้งหมดนั้น ก็อาจจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ
ในตอนนี้ก็มีหลายๆ อย่างที่ทำให้การค้นหาข้อมูลของแต่ละคนเปลี่ยนไป โดยมันจะใช้การจัดลำดับสิ่งที่ค้นหา ให้เป็นการค้นหาแบบเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น โดย Google เรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า ผลลัพธ์การค้นหาส่วนบุคคล (Personalized Results) ซึ่งการค้นหาแบบนี้จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอันน่าทึ่งเลยทีเดียว แล้วทำไมการค้นหาถึงแตกต่างกันแบบนั้นได้ล่ะ ?
นั่นก็เพราะว่า เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องมี Local IP และ Mac address ที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละเครื่อง โดย Google จะทำการตรวจสอบตำแหน่งที่ใช้งานคร่าวๆ แคช ที่เก็บบนเครื่อง และ ประวัติการค้นหาภายในเครื่องของคุณ โดยผลลัพธ์ทั้งหมด จะอ้างอิงจากข้อมูล ตามนี้
- ประวัติจากเว็บไซต์ – เบราว์เซอร์ที่เก็บอยู่บนเครื่องของคุณ ประวัติการค้นหา Cookie และ ประวัติการค้นหาแบบออนไลน์
- ทุกๆ ที่ๆ คุณได้ลงชื่อเข้าใช้งานผ่านบัญชี Google โดย Google จะรายงานผลลัพธ์ที่ได้จากตรงนั้น
- การค้นหาล่าสุด – ใช้งานจาก Cache ที่เก็บไว้ในเบราว์เซอร์ และประวัติการค้นหาต่างๆ ที่คุณได้สืบค้น
- การค้นหาทั่วไป – จากบริการของ Google ไม่ว่าจะเป็น Youtube รูปภาพ ข่าว อื่นๆ ที่ได้จากการค้นหา
- ตำแหน่งที่ตั้ง – การค้นหาจะแตกต่างกันตามสถานที่เหล่านั้น
- การค้นหาบนโลกโซเชียล – ผสมผสานการค้นหาบนโลกโซเชียล ลงใน SERP
- ศูนย์ข้อมูล Google – Google มีศูนย์ข้อมูล อยู่มากมาย หลายที่ โดยผลลัพธ์ของการค้นหาเหล่านั้น มาจาก ศูนย์ข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลตามที่ต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วโลก
จากการดึงข้อมูลที่ผู้ใช้งานได้ค้นหา หรือ สิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจอยู่ สิ่งต่างๆ เหล่านั้นจะทำให้การค้นหาของแต่ละคน แตกต่างกันไป นั่นเอง ซึ่งเราว่า มันก็เป็นข้อดีในส่วนนึงนะ เพราะว่า การที่เราค้นหาแต่ละอย่าง มันทำให้ผลลัพธ์ที่เราค้นหาบ่อยๆ มันชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยลำดับการแสดงข้อมูล จะหาสิ่งที่ตรงกับความต้องการและสิ่งสนใจของเรา ได้ตรงยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น เราค้นหาเรื่อง เสื้อผ้า ร้านอาหาร หนังสือ ชื่อหนัง หรือ เกมส์ ตัว SERP ก็จะทำการแสดงข้อมูลที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เราต้องการค้นหา โดยอิงจากข้อมูลและประวัติเก่าๆ ที่เราเคยสืบค้นมา โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาหามาก นั่นเอง และในตอนนี้ ยิ่งเราใช้งานโซเชียลอยู่เป็นประจำ เราสนใจเรื่องไหน หรือ ค้นหาอะไรบ้าง ตัว SERP ก็จะแสดงเรื่องที่เราสนใจขึ้นมาให้เห็น เวลาเราค้นหาผ่าน Google หรือมี โฆษณาในเรื่องที่เราสนใจ ด้วยเหมือนกันนะ
เอาล่ะ ทีนี้ เรามาดูข้อเสียของทางส่วนนี้กันบ้าง ที่มันเป็นข้อเสีย นั่นก็เพราะ การค้นหาแบบ Personalized Results นี้มันจะทำให้การค้นหาสิ่งใหม่ๆ ได้น้อยกว่าเดิม นึกถึงภาพ เราค้นหาอะไรสักอย่าง และหน้าจอ จะแสดงสิ่งที่เราเคยค้นหา และเข้าไปอ่านอยู่หน้าแรกๆ ส่วนสิ่งใหม่ๆ จะอยู่หน้าท้ายๆ เลย ทำให้เราพลาดการค้นหา
และนอกจากนี้ มันอาจจะกลายเป็นปัญหา สำหรับผู้ใช้งานที่ยังไม่รู้วิธีการค้นหา เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ และพอมีคนอื่นมาใช้งานเครื่องเราต่อ การค้นหาที่ได้ ก็จะผิดเพี้ยนไป เพราะว่าเครื่องได้ อิงการค้นหาแบบส่วนบุคคล จากประวัติการค้นหา แล้วนั่นเอง นอกจากนี้ การค้นหาในลักษณะนี้ยัง มีผลต่อการะเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (Search Engine Optimization) ทำให้ผู้ที่ทำ SEO ให้ตรงต่อลักษณะการค้นหาแบบนี้ เป็นไปได้ยากขึ้นมาก ทำให้ผู้ที่ทำ SEO ทั้งหลายของแต่ละเว็บไซต์ ปรับเปลี่ยนสไตล์ของคำค้นหา เพื่อให้เข้ากับลักษณะ การค้นหาของผู้ใช้ เพื่อให้ติดอันดับการค้นหา ในรูปแบบนี้ นั่นเอง
จากทั้งหมดนี้ เราก็ว่า มันก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวอยู่เหมือนกัน และในวันข้างหน้า เมื่อระบบเหล่านี้พัฒนาไปถึงจุดที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น มันก็เป็นข้อดีสำหรับผู้ใช้งาน และ เป็นผลดีต่อ Google ที่ในอนาคต จะได้สร้างสิ่งใหม่ๆ ที่มีประโยชน์ สิ่งดีๆ ที่ตอบสนองความต้องการ มาให้ชาวโลกได้ใช้งานกัน อีกอย่างแน่นอน
ที่มา : www.awsp.com , en.wikipedia.org,https://tips.thaiware.com/569.html
สุดยอดมากเลยครับ
ขอบคุณครับ
ยินดีครับ อิอิ