“ภูเก็ต” ใคร ๆ ก็ล้วนอยากเข้ามาทำความรู้จัก เพราะเปรียบเสมือนดินแดนสวรรค์ที่ไม่เคยเงียบเหงา อีกทั้งยังเต็มไปวัฒนธรรมประเพณีอันงดงาม อาหารการกินที่หลากหลาย รวมถึงไปสถานที่ท่องเที่ยวที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเก่าที่น่าประทับใจมากมาย

1. พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว

ตึกเก่าสไตล์ชิโน-ยูโรเปียน อดีตโรงเรียนจีนเก่าแก่ ภายในเป็นแหล่งรวมเรื่องราวของชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพเข้ามาพักพิงอยู่ในเขตตลาด มีการจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจทั้งสิ้น 14 ห้อง โดยแนะนำให้เดินดูตั้งแต่ห้องที่ 1 ซึ่งเป็นห้องที่มีวีดิทัศน์บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของชาวจีน ฮกเกี้ยน กวางตุ้ง ไหหลำ จากถิ่นกำเนิดสู่ภูเก็ตสายสัมพันธ์กับแผ่นดินแม่ สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างตัว สัมมาอาชีพ และภูมิปัญญา อาทิ การทำเหมืองแร่ สวนยางพารา วัฒนธรรมการกินอยู่ การสร้างบ้าน เครื่องแต่งกาย ประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนศึกษาแบบอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงประวัติโรงเรียนและครูใหญ่คนสำคัญ

ที่อยู่ : 28 ถนนกระบี่ ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
โทรศัพท์ : 0 7621 1224
เว็บไซต์ : www.thaihuamuseum.com และ เฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว ภูเก็ต

1. ย่านเมืองเก่าตึกแถวโบราณ อาคารชิโน-โปรตุกีส

ย่านรวมตึกเก่าโบราณสไตล์ชิโน-โปรตุกีส คุณจะพบกับเสน่ห์ของตัวอาคารที่สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 ตกแต่งด้านหน้าอาคารด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปอย่างสวยงาม มีร้านขายผ้าปาเต๊ะ ผ้าลูกไม้ ร้านกาแฟ โรตีมะตะบะ และอีกมากมายให้แวะกันอย่างจุใจ นอกจากนี้ยังสามารถเดินชมซุ้มโค้งแบบโรมัน บานหน้าต่าง ช่องแสงลวดลายเรขาคณิตยุคอาร์ตเดโคสุดสวย ฯลฯ

อยากแนะนำให้แวะ “ซอยรมณีย์” ที่อดีตเคยเป็นซอยบันเทิง ซึ่งปัจจุบันถูกตกแต่งด้วยสีสันสวยงามน่าถ่ายรูปสุด ๆ ต่อด้วย “อังมอเหลา” คฤหาสน์แบบนีโอคลาสสิก & เรอเนสซองส์ ของตระกูลนายเหมืองเก่า ปิดท้ายด้วยแวะเก็บภาพที่สถานที่ยอดฮิตอย่าง “ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด” “ศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ” และ “โรงแรมออนออน” รับรองว่าคุณจะหลงรักเมืองนี้เข้าอย่างจัง

ที่อยู่ : อำเภอเมือง บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนเยาวราช ถนนพังงา และรอบ ๆ
โทรศัพท์ : 08 6470 4823
เว็บไซต์ : www.phuketcity.go.th/frontpage

3. บ้านชินประชา

เป็นบ้านเก่าแก่สไตล์ชิโน-โปรตุกีส ที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งสร้างขึ้นเป็นแห่งแรกของเกาะภูเก็ตเลยก็ว่าได้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของตระกูลตัณฑวณิช โดยเจ้าของได้อนุรักษ์ตัวอาคารและเครื่องเรือนเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของภูเก็ต ผ่านการใช้ชีวิตของชาวภูเก็ตในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา

ลักษณะของบ้านมีความโดดเด่นตรงที่เป็นบ้านสองชั้น ประตูบ้านลงรักปิดทอง มีอักษรจีน มีหน้าต่างไม้หลายบาน ภายในบ้านเย็นสบายอากาศถ่ายเทสะดวก เนื่องจากตรงกลางบ้านเปิดโล่งเพื่อระบายอากาศ อีกทั้งยังมีสระน้ำเล็ก ๆ อยู่กลางบ้านเป็นมุมที่น่าสนใจไม่น้อย ในส่วนของพื้นบ้านก็ถูกปูด้วยกระเบื้องจากอิตาลีลวดลายสวยงามสุด ๆ

นอกจากนี้ยังมีบันไดไม้ลวดลายสวยงาม เครื่องเรือนส่วนใหญ่ก็เป็นไม้ฝังมุกนำเข้าจากเมืองจีน อีกทั้งยังมีเครื่องใช้ เครื่องครัวโบราณ ภาพถ่าย และภาพวาดในอดีตที่สวยงามมากมายที่รอให้คุณมาสัมผัส ส่วนท่านใดที่สนใจแต่งกายแบบคนภูเก็ตสมัยก่อนที่เรียกว่า “การแต่งกายแบบบาบ๋า ย่าหยา” ที่นี่เขาก็มีให้ลองใส่ด้วยนะจ๊ะ เก๋สุด ๆ

ที่อยู่ : อำเภอเมือง ทางเข้าอยู่ริมถนนกระบี่ ติดกับ Blue Elephant Restaurant
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. (วันอาทิตย์ปิดเวลา 14.30 น.)
โทรศัพท์ : 0 7621 1281, 0 7621 1167
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก บ้านพระพิทักษ์ชินประชา ภูเก็ต

4. ตลาดปล่อยของ

ตลาดนัดสุดบรรเจิดท่ามกลางบรรยากาศกลางแจ้งแบบสบาย ๆ ใน Limelight Avenue ใจกลางเมืองภูเก็ต ที่มีพื้นที่สำหรับปลดปล่อยสินค้าไอเดีย โดยภายในตลาดจะมีพ่อค้าแม่ขายมาวางของแฮนด์เมดดีไซน์เก๋ ๆ แฟชั่นแนว ๆ อาทิ ของที่ระลึกต่าง ๆ สมุดทำมือ หมวก งานศิลปะสุดชิค ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีอาหารหลากหลายประเภท อาหารพื้นเมือง ร้านกาแฟ และร้านน่านั่งชิลมากมาย พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับการแสดงดนตรีของเยาวชน มือสมัครเล่น ตลอดจนมืออาชีพที่จะมาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันสร้างสีสันให้ได้ครื้นเครงกันตลอดทั้งคืน อัดแน่นไปด้วยความความฮิปแบบนี้…ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

ที่อยู่ : อำเภอเมือง ริมถนนดีบุกตัดใหม่ อยู่ภายในลานเพลิน Lime Light Avenue ติดกับร้านเลมอนกราสและโซฟาผับ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันพุธ วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 16.00-22.30 น.
โทรศัพท์ : 08 9474 5253
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Phuket Indy Market – หลาดปล่อยของ

5. จุดชมวิวเขารัง

เที่ยวภูเก็ต

เป็นเนินเขาที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ตทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สามารถนำรถยนต์ขึ้นไปถึงยอดเขาได้ โดยขับขึ้นไปตามถนน “คอซิมบี้” ได้เลย ด้านบนสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเกาะภูเก็ตได้อย่างชัดเจน ทั้งหลังคาตึกเก่า สะพานหิน อ่าวฉลอง หาดราไวย์ ฯลฯ เรียกได้ว่าสามารถชื่นชมความงดงามของเมืองภูเก็ตได้ถึง 360 องศา เลยทีเดียว และโดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่นี่จะโรแมนติกมากเป็นพิเศษ เนื่องจากจะสามารถมองเห็นแสงไฟระยิบระยับของบ้านเมืองด้านล่างได้อย่างสวยงามประทับใจสุด ๆ

ที่อยู่ : จากที่ว่าการอำเภอมาทางถนนแม่หลวน จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนคอซิมบี้ไปจนสุดทาง หรือจะเข้าจากถนนวชิระข้างโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตก็ได้
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน

6. นั่งเรือกอจ๊าน ชมป่าชายเลน

“เรือกอจ๊าน” หรือ “เรือท้ายเป็ด” เป็นเรือสุดคลาสสิกที่สันนิษฐานว่าน่าจะนำมาใช้ในภูเก็ตพร้อมกับชาวจีนที่เข้ามาดูลู่ทางทำมาหากินในอดีต ซึ่ง “กอจ๊าน” หมายถึงอวนจับปลา มีต้นกำเนิดมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยจะใช้อวนกอจ๊านกับเรือที่สร้างมาโดยเฉพาะ ที่เรียกว่า “เรือกอจ๊าน” ปัจจุบันนับว่าหาดูได้ยาก และมีในจังหวัดภูเก็ตเพียงแห่งเดียวเท่านั้น โดยลักษณะของตัวเรือจะประกอบไปด้วยไม้ทั้งลำและใช้ชัน (ยางไม้ชนิดหนึ่ง) ในการยารอยต่อระหว่างพื้นไม้ ลำเรือจะมีขนาดเล็กสามารถรับน้ำหนักผู้โดยสารได้มากสุด 8 คน ขับเคลื่อนโดยใช้ผ้าใบและไม้พายยาว จึงทำให้เรือกอจ๊านกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นภูเก็ต

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งเรือกอจ๊านสัมผัสธรรมชาติทางทะเล ชมป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมกับแวะดูฝูงลิงแสมที่อาศัยอยู่ในป่าโกงกางกันได้ทุกวัน สนใจติดต่อได้ที่ชมรมกลุ่มกอจ้าน (ประมงพื้นบ้าน) รีบ ๆ กันหน่อยนะจ๊ะก่อนเรือนี้จะกลายเป็นตำนาน

ที่อยู่ : อำเภอเมือง จากแยกสะพานหิน ตรงมาทางเดียวกับสวนสาธารณะสะพานหิน (ถนนภูเก็ต) จะเจอวงเวียนเล็ก ๆ ให้มาทางด้านขวาสู่สะพานคลองบางใหญ่ ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี (ท่าเรืออยู่ใกล้ ๆ กับด้านหน้าโรงเผาขยะมูลฝอย)
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน (กรุณาติดต่อล่วงหน้า)

7. แหลมพรหมเทพ

แหล่งท่องเที่ยวฮอตฮิตที่ใครต่อใครต่างต้องไปเยือนเมื่อไปถึงจังหวัดภูเก็ต โดยรอบมีทัศนียภาพที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ไทยเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของประภาคารกาญจนาภิเษก โดยสุดปลายของแหลมพรหมเทพ มีชื่อว่า “แหลมเจ้า” บริเวณตัวแหลมซึ่งยื่นออกไปในทะเล โดดเด่นด้วยต้นตาลที่ยืนตระหง่านเกาะกลุ่มกันอยู่อย่างสวยงาม ฉะนั้นใครที่อยากชมแสงสุดท้ายของวันที่สวยที่สุด…ต้องมาที่นี่ !

ที่อยู่ : ราไวย์ เมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กิโลเมตร ห่างจากหาดราไวย์เลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน

8. วัดพระทอง (พระผุด)

“วัดพระทอง” หรือ “พระผุด” ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร มีลักษณะเป็นพระครึ่งองค์ โดยมีประวัติความเป็นมาว่า “พระผุด” คือพระพุทธรูปทองคำจากเมืองจีน มีอายุราว ๆ 2,000 ปี ชาวทิเบตนำลงเรือมาทางมหาสมุทรอินเดีย แต่เกิดพายุโหมซัดเรือเข้ามายังฝั่งพังงาและเกิดจมลง ต่อมาเกิดฝนตกหนักน้ำท่วมเซาะดินจนเห็นเป็นพระเกตุมาลาโผล่พ้นเหนือพื้นดิน ขึ้นมา

เมื่อเจ้าเมืองทราบได้มีการสั่งการให้ขุดพระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานไว้บูชา แต่ไม่สามารถขุดขึ้นมาได้ เพราะบางคนถูกตัวต่อตัวแตนอาละวาดเป็นพิษถึงแก่ความตาย เจ้าเมืองจึงสั่งให้ทำที่มุงที่บังเป็นสถานที่กราบไหว้เรื่อยมา ชาวบ้านจึงเรียกว่ากันพระผุด เพราะเป็นพระพุทธรูปที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินโดยมีความสูงประมาณ 1 ศอก ซึ่งคนจีนเรียกว่า “ภูปุ๊ค” (พู่ฮุก) และเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน คนจีนในภูเก็ต พังงา ตะกั่วป่า ท้ายเหมือง และกระบี่ จะพากันมานมัสการเป็นประจำจนถึงทุกวันนี้

ที่อยู่ : หมู่ที่ 7 ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-17.30 น.

9. วัดฉลอง

“วัดฉลอง” หรือ “วัดไชยธาราราม” วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อ “หลวงพ่อแช่ม” หรือ “พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี” พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ (พวกจีนที่ก่อการกบฏ) โดยท่านได้มอบผ้าประเจียดสีขาวให้ชาวบ้านทุกคนโพกหัวเพื่อเป็นขวัญและกำลัง ใจในการต่อสู้จนชนะพวกอั้งยี่ได้ (ตอนนั้นพวกอั้งยี่เรียกชาวบ้านว่า “พวกหัวขาว”) ท่านสามารถร่วมกับ ซิตี้ทัวร์ภูเก็ต City tour Phuket ครึ่งวัน ได้

ภายหลังรัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าพระราชทานสมณะศักดิ์แก่หลวงพ่อแช่มวัดฉลองเป็นพระครูวิสุทธิ วงศาจารย์ญาณมุนี ซึ่งท่านก็เป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของชาวภูเก็ตตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แวะไปสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองกันได้ทุกวัน รับรองอิ่มบุญอิ่มใจกันถ้วนหน้าแน่นอน

ที่อยู่ : 70 บ้านฉลอง ถนนเจ้าฟ้า หมู่ที่ 6 ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก วัดไชยธาราราม – วัดฉลอง

10. อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เมื่อมาถึงภูเก็ตแล้วไม่แวะมาสักการะถือว่ามาไม่ถึง เป็นอนุสาวรีย์สองสตรีผู้กล้าแห่งเมืองถลาง หรือที่รู้จักกันในนาม “คุณหญิงจัน คุณหญิงมุก” ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในชุดโจงกระเบน สวมเสื้อแขนกระบอก ห่มตะเบงมาน มือทั้งสองถือดาบ

มีประวัติเล่าว่าในช่วง พ.ศ. 2328 ประเทศไทยถูกพม่ารุกราน โดยศึกครั้งนั้นเรียกกันว่า “สงครามเก้าทัพ” และมีทัพหนึ่งของพม่าบุกมาทางภาคใต้หมายจะตีเมืองถลางให้สำเร็จ ขณะนั้นเจ้าเมืองถลางสามีของคุณหญิงจันเพิ่งเสียชีวิตลงทำให้เมืองถลางขาดผู้นำ คุณหญิงจันและคุณหญิงมุกผู้เป็นน้องจึงอาสาเป็นผู้บัญชาการรบด้วยตัวเอง

โดยได้ออกอุบายลวงพม่าให้ผู้หญิงในเมืองถลางราว 500 คน แต่งตัวเลียนแบบชายชาตรี และแสร้งทำเป็นว่าถือดาบ โดยให้เอาไม้ทองหลางเคลือบดีบุกถือต่างอาวุธ และทำทีจัดขบวนไพร่พลเดินตระเวน และประชุมพลถ่ายเทคนเข้าออกให้เห็นว่าทัพไทยมีพลกำลังเสริมเข้ามาตลอดเวลา ทำให้พม่าลังเลใจที่จะเข้าตี และด้วยระยะเวลาที่ยาวนานส่งผลให้กองทัพพม่าขาดเสบียงอาหาร บาดเจ็บล้มตายเป็นประจำทุกวัน ส่งผลให้กองทัพปั่นป่วนและสูญเสียทหารไปมากกว่า 400 คน ท้ายที่สุดพม่าจึงตัดสินใจยกทัพกลับไป ซึ่งนับเป็นวีรกรรมที่น่าเชิดชูยิ่งนัก ไหน ๆ ก็มาถึงเมืองภูเก็ตกันแล้วควรหาเวลาไปสักการะท่านทั้งสองกันสักครั้ง

ที่อยู่ : บ้านท่าเรือ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน

11. หาดกมลา
ชายหาดยอดฮิตที่อยู่ถัดลงมาทางใต้ของหาดสุรินทร์ มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เงียบสงบ เป็นส่วนตัว นอกจากนี้ที่นี่ยังมีอนุสรณ์สถานสึนามิ เป็นประติมากรรมชื่อว่า “จิตจักรวาล” ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงพิบัติภัยคลื่นยักษ์ที่เคยเกิดขึ้นที่ชาดหาดแห่งนี้ และสื่อถึงแรงหมุนของโลกและการปรับเปลี่ยนของธรรมชาติเพื่อความสมดุล ส่วนในบริเวณทางเหนือของหาดยังมีที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน เหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อนอย่างยิ่ง

ที่อยู่ : อำเภอกะทู้ เดินทางด้วย แท็กซี่สนามบินภูเก็ต หาดกมลา ทางหลวง 4233 จากหาดสุรินทร์ไปทางทิศใต้ 2 กิโลเมตร เข้าทางโรงเรียนบ้านกมลา หรือ สภ.ต.กมลา
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน

12. หาดป่าตอง

ชายหาดยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง มีหาดทรายสีขาวละเอียด เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำและทำกิจกรรมทางทะเล โดยมักจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาพักผ่อน นอนอาบแดด และเล่นน้ำทะเลกันอย่างล้นหลาม นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ หาดจะมีร้านค้า ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวมากมาย เรียกได้ว่ามาที่นี่รับรองไม่มีเหงา ใครสนใจก็แวะมาเช็กอินริมหาดกันได้เลย

ที่อยู่ : อำเภอกะทู้ ริมถนนทวีวงศ์ เดินทางด้วย แท็กซี่ป่าตอง (ทางหลวง 4233) จากตัวเมืองมาตามทางหลวง 4029 ผ่านวัดสุวรรณคีรีวงก์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนประชานุเคราะห์

วิธี Redirect Google Site ไปยัง URL อื่น
MySQL วิธีตั้ง event scheduler

Leave a Comment