Post Views:
19
สิ่งควรรู้ก่อนคิดลงทุนใน LTF
1. ต้องถือกองทุนไม่ต่ำกว่า 7 ปีปฏิทิน (เมื่อก่อน 5 ปีปฏิทิน)
คำว่าปีปฏิทินหมายความว่าอย่างไง
สมมุติว่าเราซื้อกองทุนในวันที่ 7 ธันวาคม 2561 พอวันที่ 1 มกราคม 2562 แค่นี้ก็นับเป็น 1 ปีปฏิทินแล้ว ขอเพียงแค่ข้ามปีก็นับเป็นปีปฏิทิน ไม่ต้องรอให้ครบรอบปีแบบครบรอบวันเกิด
ดังนั้นถ้าเราวางแผนดีๆ เราสามารถใช้เงินลงทุนได้ในเวลา 6 ปีกว่าได้
2. เลือกกองทุนที่เราสามารถรับความเสี่ยงได้
กองทุนแต่ละกองทุนมีนโยบายการลงทุนที่ไม่เหมือนกัน บางกองทุนเอาเงินเราไปลงทุนในหุ้นภายในประเทศ บางอันไปลงทุนในตลาดทองคำ บางอันลงทุนหุ้นในทวีปยุโรป
โดยปกติก่อนที่เราจะเปิดบัญชีกองทุน ทางธนาคารจะมีแบบประเมินความเสี่ยงให้เราได้ทำก่อนว่าเราสามารถรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน
High risk, high return. ยิ่งเสี่ยงสูง ผลตอบแทนก็ยิ่งสูง แต่อย่าลืมว่ามันก็มีโอกาสขาดทุนสูงได้เช่นกัน
3. พยายามกระจายการลงทุน กรณีผู้เขียน ทยอยๆ ซื้อไปเรื่อยๆ ทำเหมือนฝากประจำ (แต่ผลตอบแทนไม่เหมือนฝากประจำ) ไม่รอให้ใกล้สิ้นปีแล้วค่อยซื้อทีเดียว
ราคาซื้อกองทุนของแต่ละกองทุนมีขึ้นมีลงตลอดเหมือนดรรชนีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เราไม่รู้ว่ามันจะขึ้น-ลง ตอนไหน
4. กองทุนมีแบบที่มีปันผลและไม่มีปันผล
แบบมีปันผลจะมีปันผลให้ปีละ 1-2 ครั้ง
เท่าที่ผู้เขียนลงทุนไปผลตอบแทนมากกว่าของปันผลจะมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ แต่รายได้จากเงินปันผลเราต้องนำไปคำนวณภาษีด้วย
ส่วนแบบไม่มีปันผล เท่าที่ลงทุนไป ผลตอบแทนจะหวือหวากว่าแบบมีปันผล
5. ราคากองทุนมีขึ้นมีลงทุกวัน เพราะฉะนั้นการลงทุนต้องรับความเสี่ยงตรงนี้ให้ได้ การลงทุนไม่ใช่การฝากเงินธนาคารที่เงินต้นจะได้คืนครบถ้วน
ผู้ลงทุนควรพิจารณาตัดสินใจให้ดีว่าสามารถรับความเสี่ยงตรงนี้ได้ไหม
มีคนเคยบอกผู้เขียนว่าเวลามันจะชนะ นั่นหมายความถ้าเราลงทุนนานพอแล้วมันก็ได้กำไรเองนั่นแหล่ะ
ขอให้โชคดีครับ
หมายเหตุ: เมื่อวันก่อนอ่านข่าวเจอว่ารัฐบาลอาจะมีแนวคิดยกเลิกการลดหย่อนภาษีด้วยการลงุทุน LTF หลังจากปี 2562 แล้วหาเครื่องมืออื่นมาลดภาษีแทน แต่ยังไม่ชัดเจน คงต้องรอประกาศเป็นทางการอีกครั้ง
สิ่งควรรู้ก่อนคิดลงทุนใน LTF
1. ต้องถือกองทุนไม่ต่ำกว่า 7 ปีปฏิทิน (เมื่อก่อน 5 ปีปฏิทิน)
คำว่าปีปฏิทินหมายความว่าอย่างไง
สมมุติว่าเราซื้อกองทุนในวันที่ 7 ธันวาคม 2561 พอวันที่ 1 มกราคม 2562 แค่นี้ก็นับเป็น 1 ปีปฏิทินแล้ว ขอเพียงแค่ข้ามปีก็นับเป็นปีปฏิทิน ไม่ต้องรอให้ครบรอบปีแบบครบรอบวันเกิด
ดังนั้นถ้าเราวางแผนดีๆ เราสามารถใช้เงินลงทุนได้ในเวลา 6 ปีกว่าได้
2. เลือกกองทุนที่เราสามารถรับความเสี่ยงได้
กองทุนแต่ละกองทุนมีนโยบายการลงทุนที่ไม่เหมือนกัน บางกองทุนเอาเงินเราไปลงทุนในหุ้นภายในประเทศ บางอันไปลงทุนในตลาดทองคำ บางอันลงทุนหุ้นในทวีปยุโรป
โดยปกติก่อนที่เราจะเปิดบัญชีกองทุน ทางธนาคารจะมีแบบประเมินความเสี่ยงให้เราได้ทำก่อนว่าเราสามารถรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน
High risk, high return. ยิ่งเสี่ยงสูง ผลตอบแทนก็ยิ่งสูง แต่อย่าลืมว่ามันก็มีโอกาสขาดทุนสูงได้เช่นกัน
3. พยายามกระจายการลงทุน กรณีผู้เขียน ทยอยๆ ซื้อไปเรื่อยๆ ทำเหมือนฝากประจำ (แต่ผลตอบแทนไม่เหมือนฝากประจำ) ไม่รอให้ใกล้สิ้นปีแล้วค่อยซื้อทีเดียว
ราคาซื้อกองทุนของแต่ละกองทุนมีขึ้นมีลงตลอดเหมือนดรรชนีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เราไม่รู้ว่ามันจะขึ้น-ลง ตอนไหน
4. กองทุนมีแบบที่มีปันผลและไม่มีปันผล
แบบมีปันผลจะมีปันผลให้ปีละ 1-2 ครั้ง
เท่าที่ผู้เขียนลงทุนไปผลตอบแทนมากกว่าของปันผลจะมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ แต่รายได้จากเงินปันผลเราต้องนำไปคำนวณภาษีด้วย
ส่วนแบบไม่มีปันผล เท่าที่ลงทุนไป ผลตอบแทนจะหวือหวากว่าแบบมีปันผล
5. ราคากองทุนมีขึ้นมีลงทุกวัน เพราะฉะนั้นการลงทุนต้องรับความเสี่ยงตรงนี้ให้ได้ การลงทุนไม่ใช่การฝากเงินธนาคารที่เงินต้นจะได้คืนครบถ้วน
ผู้ลงทุนควรพิจารณาตัดสินใจให้ดีว่าสามารถรับความเสี่ยงตรงนี้ได้ไหม
มีคนเคยบอกผู้เขียนว่าเวลามันจะชนะ นั่นหมายความถ้าเราลงทุนนานพอแล้วมันก็ได้กำไรเองนั่นแหล่ะ
ขอให้โชคดีครับ
หมายเหตุ: เมื่อวันก่อนอ่านข่าวเจอว่ารัฐบาลอาจะมีแนวคิดยกเลิกการลดหย่อนภาษีด้วยการลงุทุน LTF หลังจากปี 2562 แล้วหาเครื่องมืออื่นมาลดภาษีแทน แต่ยังไม่ชัดเจน คงต้องรอประกาศเป็นทางการอีกครั้ง
บรรน่ารัก
More Posts
บรรน่ารัก