ห่างหายกันไปนาน….วันนี้โอกาสดี..ถือฤกษ์ครึ้มฟ้าฝน บิ้วอารมณ์การเขียนสักหน่อย…วันนี้จะมาเล่าเรื่องการเป็นองค์กรแห่งความสุข ซึ่งเมื่อสักสองสามวันที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเดินทางไปเข้าร่วมงาน Show and Share “PSU Happy Station ครั้งที่ 1 ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดขึ้น โดยครั้งนี้ไปในฐานะผู้เข้าร่วมสังเกตุการณ์งาน สังเกตุเพื่อเอามาเป็นแบบอย่างให้กับสำนักงานอธิการบดีเรา …ซึ่งมีคณะหน่วยงานในม.อ.ไปร่วมโชว์และแชร์ความสุขอยู่ 24 หน่วยงาน .. ทั้งนี้ของวิทยาเขตภูเก็ตก็มีคณะการบริการและการท่องเที่ยวเขาไปออกบูธโชว์และเล่าต่อความสุขที่เกิดขึ้นในคณะของเขา ซึ่งดิฉันนับถือคณะนี้มากๆ ทั้งผู้บริหาร ทั้งบุคลากรคณะเขาเห็นความสำคัญ เห็นคุณค่าและไม่ละเลยความสุขของคนทำงานเลยจริงๆ สวัสดิการเขามีต่างๆ มากมาย ….(แอบอิจฉาเบาๆ) อิอิ แต่กระนั้นเลยสำนักงานอธิการบดีเราก็มีสวัสดิการและความสุขให้กับบุคลากรเช่นกัน แต่อาจจะไม่เป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นเพียงแค่ EVENT แล้วก็จบๆกันไป …อีกอย่างก็ด้วยปัจจัยที่มีจำนวนบุคลากรอยู่เยอะการขยับทำอะไรสักครั้งก็ค่อนข้างจะอุ้ยอ้ายยยพอตัว….

เข้าเรื่องกันสักที วันงาน มีปาฐกถา เรื่อง “จุดประกายองค์กรแห่งความสุข” โดยคุณสุจิตต์ ไตรพิทักษ์ กรรมการบริหารแผนสร้างเสริมสุขภาวะองค์กร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)โดยสามารถสรุปใจความการเป็นองค์กรแห่งความสุขไว้เป็นข้อๆดังนี้
– ปัญหาของการสร้างองค์กรสร้างสุข คือ ความร่วมมือ
– เราไม่อยากเห็นการสร้างความสุขเป็น EVENT จัดงาน เลิกงาน แล้วก็จบ
– ถ้าคนในองค์กรมีสุขภาวะที่ดี รายจ่ายขององค์กรด้านรักษาพยาบาลก็ลดลง
– ผู้บริหารยุคใหม่ จะไม่ถามว่า “คนทำไมไม่ทำงาน???” แต่จะถามว่า “ทำอย่างไรให้คนรักองค์กร???”
– การทำ HAPPY WORK PLACE อย่าลืมเขย่าขวด จริงๆองค์กรเรามีสิ่งดีๆจำนวนมาก แต่จะจับมาเชื่อมอย่างไรให้เข้ากับ 8 HAPPY
– นักสร้างสุขจะต้องมองการทำภารกิจองค์กรแห่งความสุข ต้องมองให้เป็นพันธะไม่ใช่ภาระ ซึ่งภาระ คือ สิ่งที่จำใจทำ สิ่งที่ทำเป็น EVENT ทำเพื่อเพียงเสร็จ แต่พันธะ คือ การทำด้วยใจ ความรัก ความเข้าใจ
– องค์กรแห่งความสุขคือจะต้องทำอย่างไรให้คุณภาพชีวิตแต่ละวัยไปด้วยกันได้ ทั้งนี้จะต้องทราบถึงพื้นฐานของวัยต่างๆ ดังนี้
1. GEN BB ชีวิตคืองาน เกิดมาเพื่อทำงาน
2. GEN X งานคือชีวิต ทำงานเพื่อตอบโจทย์ชีวิต
3. GEN Y งานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต (ในชีวิตต้องมีภาระอื่นๆที่จะสร้างสมดุลอยู่ด้วย)
4. GEN Z งานเป็นทางเลือกของชีวิต (ไม่ทำงานในองค์กร ก็สามารถสร้างชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้)

ทั้งนี้ดิฉันจะขอยกตัวอย่างที่ปลื้มๆ สัก 4 โครงการ ที่เห็นว่าทำแล้วมีความสุข (วัดจากตัวเองล้วนๆน่ะค่ะ)
โครงการแรก เป็นของ สำนักส่งเสริมและการศึกษาต่อเนื่อง คือโครงการ Happy Birth Day ลักษณะคือผู้อำนวยการเขาจะเป็นผู้เขียนกลอนอวยพรวันเกิดให้ทุกคน แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่น่ารักคือ คนเฝ้าบูธ(ลูกน้องของผ.อ.)บอกพร้อมยิ้มแบบว่ากรุ่มกริ้มภูมิใจว่า ผ.อ.เขาเขียนให้เป็นรายคนเขียนไม่เหมือนกัน กลอนจะแตกต่างไปตามบุคลิกของลูกน้อง ฉะนั้นดิฉันกลับมาคิดย้อนเลยว่าการเป็นคนละเมียดละมัยใส่ใจในรายละเอียดของลูกน้องนี่เองที่เป็นเสน่ห์มัดใจให้ลูกน้องทำงานด้วยความรักองค์กร ไม่ใช่ทำงานตามหน้าที่ ——เป็นสิ่งที่ทำให้ถามไปยังหัวหน้าว่า????ถ้าอยากได้ใจลูกน้อง วันนี้รู้หรือยังว่าลูกน้องคุณมีบุคลิกเป็นอย่างไร นิสัยเป็นอย่างไร หรือเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร รู้หมดแล้วหรือยัง????? ——–

โครงการของสำนักวิทยบริการ วิทยาเขตปัตตานี Happy Heart โครงการจัดเลี้ยงน้ำชา ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน ลักษณะคือหากมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด่วน เช่น เหตุลอบทำร้าย 3 จัง
หวัดภาคใต้ แล้วบุคลากรเกิดบาดเจ็บ จะดำเนินการจัดงานขายบัตรเลี้ยงน้ำชา เพื่อเอาเงินที่ได้ไปมอบให้เพื่อนที่ประสบภัย โครงการนี้เป็นโครงการที่ดิฉันคิดว่า “ใจต่อใจ” กันเลยทีเดียว ปลื้มในการช่วยเหลือกันพันธะความสัมพันธ์มันไม่ได้หมดแค่เวลาเลิกงาน แต่มันเป็นพันธะที่สานต่อตลอดเวลา

โครงการสวัสดิการวันเกิดของคณะการบริการและการท่องเที่ยว ลักษณะโครงการคือ หยุดฟรี 1 วัน ไม่ต้องลาในระบบ แต่ต้องลาตามโครงการ +เงินขวัญถุงอีก 1,000 บาท คือจริงๆแล้วคิดว่าเงินได้ไม่เท่าเขาไม่เป็นไรเพราะคงขึ้นอยู่กับสถานภาพทางการเงินของหน่วยงาน แต่วันเกิดนี่บางคนเขาถือว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่อาจจะได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว หรือทำบุญร่วมกับครอบครัว

โครงการ กล่อง BOX ของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชนและผู้ด้อยโอกาส ลักษณะคือ ทุกคนจะมีกล่องประจำตัวติดรูปตัวเองอยู่ข้างหน้ากล่อง และติดไว้ที่มุมๆหนึ่งรวมกัน หลักการคือว่า ไว้เป็นกล่องแทนใจ ใครอยากเขียนอะไรให้กำลังใจใครก็เขียนแล้วเอาไปใส่ในตู้ ใครเดินทางราชการไปไหนมีของมาฝากก็เอามาใส่ไว้ในตู้คนที่อยากให้ ซึ่งดิฉันคิดว่าเป็นอะไรที่กิ๊บเก๋มากๆ เป็นอะไรเล็กๆแต่มันสะท้อนถึงความผูกผันได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะส่งข้อความกันทางโซเชียลก็ได้ แต่การทำแบบนี้ถือว่าเป็นอะไรที่น่ารักมากๆ

ทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามานี้ก็อยากจะส่งต่อความสุขที่ได้ไปพบเห็นมาเล่าส่งต่อเพื่อนๆ ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามอยากให้เพื่อนๆ ทำงานอย่างมีความสุขน่ะค่ะ “สุขใดไม่เท่าสุขอยู่ที่ใจ”

(^^PHEunG^^)wilaiporn

ประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต

More Posts

Follow Me:
Facebook

ISSN คืออะไร
การสร้างไฟล์ pdf และไฟล์อื่นๆด้วยโปรแกรม PDF Creator

Discussion

  • Commenter's Avatar
    saiysuda.k — 23 December 2014 at 09:14

    เป็นเรื่องราวที่ดีค่ะ ที่นำมาแบ่งปันกัน … ชอบจังเลย โครงการ Happy Birth Day และ โครงการสวัสดิการวันเกิดของคณะการบริการและการท่องเที่ยว เป็นอะไรที่มันใช้ใจทำล้วนๆ อ่ะ ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้บังคับบัญชาใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชา มันเป็นสิ่งที่ให้เราได้มีความสุขนอกเหนือจากค่าตอบแทน ^__^

  • Commenter's Avatar
    NONTAPON RATTANAPITTAYAPORN — 25 December 2014 at 11:10

    Like

Leave a Comment