วันนี้รู้สึกคันไม้คันมือ อยากดีดๆ จิ้มๆ ละเลงคีย์บอร์ดบนหน้าไซต์ของชุมชนผู้ปฏิบัติงานจริงๆ จัดซักหน่อย ไหนๆ ก็ไหนๆ มีพื้นที่ดีๆ ให้ได้แบ่งปันกันแล้ว ใช้มันซ่ะ (ให้คุ้ม) ….. ^___^
ประเด็นร้อนในต้อนนี้คงหนีไม่พ้นประเด็นของการได้มาซึ่งรางวัลอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย นั่นก็คือ การคว้าแชมป์บอล รายการแข่งกันซูซูกิคัพ 2014 ดวลแข้งระหว่างทีมชาติไทยและมาเลเซีย เป็นอะไรที่ดุเด็ดเผ็ดมัน ลุ้นระทึกกันอย่างหวาดเสียว … ด้วยผู้เขียนไม่ใช่คอบอลแต่อย่างใด ได้ติดตามผ่านกระแสเพียงเล็กน้อยผ่านเพื่อนสาวซื่งมีน้องชายเป็นกัปตันทีม คือ นายอดุล หละโส๊ะ นั่นเอง เอิ่ม… ไม่ใช่คอบอลจริงๆ นะคะ ผิดพลาดประการใดโปรดอภัย…
ขอบคุณที่มาของภาพจากเพจ เชอรี่นะ นี้เชอรี่เองจำไม่ได้หรอ
เผยแพร่ต่อโดย Sujittra Senbat
อีกหนึ่งประเด็นร้อนต่อเนื่อง ซึ่งไม่น่าจะเป็นอะไรที่ใหญ่โตเลยในความคิดเห็นของผู้เขียน นั่นก็คือ เรื่องการใช้ภาษาอังกฤษของโค้ชทีมชาติไทย คุณซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ สำหรับภาพโค้ชสุดหล่อค่ะ ^__^
…. นี่คือประเด็นที่จะหยิบยกมาร่ายและมาแบ่งปันความรู้กันดีกว่าค่ะ ….
ในความเป็นจริงประเทศไทยเรามีภาษาไทยเป็นภาษาแม่ หลายคนคงรับทราบผ่านประวัติศาสตร์กันดี ไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของไทย มีภาษาไทยใช้เองมาช้านาน อ้อ …ขอออกตัวอีกเรื่อง ผู้เขียนมีความรู้ไม่มากเรื่องประวัติศาสตร์และภาษาศาสตร์ น้อมรับข้อชี้แนะนะคะ (ไม่เอาหยาบคายและด่าทอ เป็นอะไรที่ไม่ชอบเป็นที่สุด) …. จากที่แจ้งว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ คงเฉกเช่นเดียวกับคุณซิโก้นั่นแหละค่ะ แต่พื้นหลังแล้วผู้เขียนสนใจในด้านของการใช้ภาษาอังกฤษ คือ บอกได้ว่า ได้แค่สนใจจริงๆ ไม่มีโอกาศได้ศึกษาอย่างล้ำลึก ปัจจุบันนี้ ศึกษาผ่านลักษณะครูภักลักจำเอาค่ะ จึงอยากเอามาแบ่งปันกันเนอะ …..
ปัจจุบันผู้เขียนมีวิธีฝึกฝนภาษาของตัวเองดังนี้ค่ะ เอาพอสังเขปนะคะ ถ้าเอาเข้าจริงมันจะมีเยอะมากตามเซ็นต์ของตัวเองที่อยากฝึก
1. เข้าร่วมกลุ่มเรียนภาษาอังกฤษใน Facebook และติดตามเพจที่เค้าสอนภาษาให้ฟรีๆ (ของฟรี ดีๆ ก็มีนะค่ะ อิอิ ผู้เขียนชอบ) คนไทยส่วนใหญ่มีน้ำใจค่ะ แบ่งปันความรู้กันอยู่เรื่อยๆ สามารถศึกษาได้เลยถ้าเราตั้งใจ (แต่ไม่ค่อยมีเวลานี่สิ่ แฮ่ะๆ) … คราวต่อไปจะนำมาบอกว่ามีกลุ่มอะไรบ้าง ส่วนเพจนี้ ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ค่ะ ตอนนี้ยอดไลค์ปาเข้าไปเป็นแสนแล้ว ..แล่ว แลว แล่ว แล๊ววววว…
2. ฝึกฟังโดยการฟังเพลงภาษาอังกฤษบ่อยๆ ค่ะ ดูหนัง อะไรประมาณนี้ก็ได้ ยกตัวอย่าง กับสำเนียงและประโยคง่ายๆ Cooooooooool ว้าวววววว … ^_^
3. ฝึกพูด ด้วยการพูดกับเพื่อนร่วมงานด้วยกัน (ที่คิดว่าอ้อร้อเข้าขากันได้ ในที่แห่งนี้มีอยู่หนึ่งนาง หากเจ้าตัวมาอ่านคงรู้ค่ะ) อ้อ อันนี้บอกเลยต้องมีความ ดจร.หน่อยๆ ถึงจะโอเคนะคะ ซึ่งผู้เขียนมีเยอะ ถ้าไม่เจอคนที่ปรมมาจารย์กว่า 555++
4. ตอนนี้ที่วิทยาเขตเรามีการสอนโดย Aj. Tim เป็นอะไรที่ชอบมากๆ เลย เป็นโครงการที่ดีมากค่ะ ถึงแม้บางทีเราจะไม่ค่อยได้พูด แต่การเข้าชั้นเรียนเพื่อไปเรียน จะได้ฟังสำเนียงอาจารย์ซึ่งเป็นตัวคนจริงๆ ไม่ใช่การเปิดเทป หรือการบันทึกเสียง มีปฏิกิริยาตอบกลับ เป็นอะไรที่ฟินนาเร่ ผู้เขียนชอบมาก …คือ .. จะเรียกว่าการสอนก็ไม่เชิง เป็นการบอกอะไรที่เราไม่รู้มากกว่า พูดคุยกัน ไม่มีการแล็คเชอร์ (หรือใครจะเล็คเชอร์ก็ไม่ว่า) ^___^ หวังว่าหลายคนคงแฮปปี้ค่ะ
5. การได้พบปะ พูดคุยกับชาวต่างชาติบ่อยๆ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นฝรั่ง จะชาติไหนก็ได้ เราจะได้ฟังสำเนียงหลายๆ ชาติ อีกหนึ่งสิ่งที่น่าภูมิใจคือตำแหน่งงานที่ทำอยู่ มักได้เจอชาวต่างชาติมาถามโน่นนี่บ้างก็พูดคุยกันไป บางคนคุยกันไปจนรู้จักกันไปเลยก็มี สำหรับผู้เขียนแล้วจะเป็นอะไรที่ฟินนาเร่อีก ถ้าสามีชวนไปเป็นไกด์จำเป็นให้ในยามที่ต้องให้บริการชาวต่างชาติ (พูดไปเถอะค่ะ และพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละชาติหน่อยแล้วกัน อย่าพูดแบบห้วนๆ ด้วนๆ หรือคำศัพท์อะไรที่เราใช้แค่ในกลุ่มเพื่อนหรือคนสนิทอันนี้ต้องเรียนรู้ค่ะ) …
จากเรื่องราวที่ได้แบ่งปันกันไป นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้เขียนจะเป็นผู้ที่มีทักษะทางด้านนี้ดีเลิศแล้วนะคะ แต่เป็นการแบ่งปันวิธีการสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากฝึก ไม่นับรวมคนที่มีทักษะหรือเชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้วนะคะ เพราะพวกเรายังห่างไกลจากท่านหลายขุมนัก …และการใช้ภาษาอังกฤษ อย่าไปเครียดว่ามันต้องเป๊ะ เวลาทำงานจริง ไม่นับรวมงานวิชาการ เราเอาแค่สื่อสารเข้าใจ ตอบสนองได้ ก็เริ่ดแล้วค่ะ (ในความคิดของผู้เขียนนะคะ) หากมีโอกาสก็หมั่นศึกษาพัฒนาให้ดีขึ้น ปรับระดับการใช้ภาษา และไม่ควรเปรียบเทียบความรู้ของคนอื่นกับตัวเอง หรือกับใครที่ด้อยกว่าหรือสูงกว่า คนเรามีโอกาสไม่เท่ากันค่ะ อยากให้ทุกคนให้เวลามัน ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ….. อันนี้ที่กล่าวมา ยังไม่รวมทักษะด้านการอ่านและเขียน ซึ่งเป็นอะไรที่ยากมากกกกกสำหรับผู้เขียน ท่านใดมีข้อแนะนำโปรดชี้แนะค่ะ ^____^
หวังว่าทุกท่านคงได้สาระบ้างจากบทความนี้นะคะ โอกาสต่อไปเจออะไรดีๆ จะนำมาบอกกว่าค่ะ ถือว่าเป็นการแบ่งปันความรู้กันค่ะ ^___^
ชอบมากค่ะ เป็นวิธีการฝึกฝนที่ค่อนข้างจะใกล้ตัว แต่ประเด็นคือ ไม่มีเวลาหรือไม่อยากฝึกนี้จิ ^___^
สำหรับการเรียนกับ Aj. Tim ถ้าดูจากภาพ คงจะทราบว่าแฮปปี้ไหม อิอิ ส่วนตัวเอง แม้ว่าจะไม่ค่อยได้สนทนาจริงๆจังๆ อย่างน้อยก็ได้ฟังสำเนียงของคนต่างชาติจริงๆ
เลิศค่ะ…